3| | |ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของอัญชลี เรือนใจมั่น นะคะ| | |4>>

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ลองนำไปใช้ดูนะ


1.อย่าเข้านอนเพราะว่า "ถึงเวลานอนแล้ว" แต่จงเชื่อนาฬิกาในตัวคุณเอง ถ้าดุไม่ออกว่าตอนไหน ขอให้รู้ไว้ว่าร่างกายจะสื่อให้ทราบเมื่อถึงเวลา แต่ทว่า มนุษย์เราไม่รู้ ความหมายอยู่บ่อย ๆ ซึ่งได้แก่ การหาวนอน อาการแสบตา ความรู้สึกประเภท "ลานหมด" หัวจะทิ่มลงท่าเดียว ส่วนหนังตา ก็หย่อน พาลจะหลับให้ได้…. ถ้ายังไม่รับทราบสัญญาณเหล่านี้ คุณก็จะพลาดรถไฟ สายเจ้าหญิงนิทรา และจะต้องรอไปอีกสองชั่วโมง จึงจะง่วงนอนอีกครั้ง เนื่องจากต่าง คนต่างก็มี่ช่วงจังหวะของตัวเอง จึงเปล่าประโยชน์ที่คุณ จะเข้านอนแต่เนิ่น ๆ ถ้าคุณเป็นสมาชิกครอบครัว นอนดึก หรือรอจนดึกดื่น จึงเข้านอน ถ้าคุณเป็นพวกนอนหัวค่ำ
2.อย่านอนผิดเวลาทุกวัน คุณรับประทานอาหารประมาณเวลาเดิม ก็ขอให้เข้า นอน และ ตื่นนอนตามตารางเวลา เดิมเป็น ประจำด้วย มิฉะนั้นคุณก็เสียง ที่จะง่วง นอนผิดเวล่ำเวลา

3.ทดลองหลับแว่บเดียว ทำเหมือนจิตรกรซัลวาดอร์ ดาลี ที่ดูเหมือนเป็น หนึ่งใน บรรดา ลูกสมุนของเทคนิค "แสงแว่บ" เรียกสติคืนมา นั่งบน เก้าอี้โซฟา มือถือช้อนชาคันหนึ่ง ตรงปลายเท้าของคุณวางจานโลหะ ไว้หนึ่งใบ เมื่อผล็อย หลับ มือก็จะปล่อยช้อนหล่นลงมาบนจานโลหะ ส่งเสียงดัง ซึ่งจะปลุกคุณให้ตื่น ในทางทฤษฎีถือว่าอาการของคุณปกติดี คำอธิบายเมื่อหลับตา คุณตัดข้อมูล ไม่ให้เข้าสู่สมองได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ควรฝึกวันละหลายครั้ง

4.พักกลางคัน ถ้าคุณไม่สนใจพักแป๊ปเดียวเพื่อให้ตนเอง กระปรี้กระเปร่า ก็ใช้วิธีนี้ นั่งท่าสบาย ๆ อยู่ที่โต๊ะ ทำงาน ของคุณ หนุนศีรษะบนแขนที่ไขว้ กัน หรือนอนท่าเหยียดยาว หลับตาและปล่อยตัวตามสบาย 5 นาที เพื่อผ่อนคลาย ง่าย ๆ
5.สะสมการนอน "ช่วงสั้น" ใน วันทำงาน คงยากที่ จะนั่งสัปหงกหน้าแป้นพิมพ์ คอมพิวเตอร์ตอนบ่ายอ่อน ๆ เก็บสะสมความอยากเอนหลังนาน ๆ เป็นชั่วโมง ครึ่งถึงสองชั่วโมง (ซึ่งเป็นหนึ่งวัฏจักรของการ นอนหลับพักผ่อน ที่เต็มอิ่ม) เอาไว้ชดเชยตอนบ่ายของวันสุดสัปดาห์ คุณจะได้พักผ่อนอย่างอิ่มเอม ใช้หนี้ความเหนื่อยล้าตลอดสัปดาห์

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ของกินที่ทำให้หลับสบาย แถมยังหาง่ายด้วยนะ


10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 1 : อัลมอนด์
      
       
“อัลมอนด์คือ สุดยอดอาหารช่วยให้หลับ” ผู้อำนวยการ Fibromyalgia & Fatigue Centers ชื่อ ดร.Jacob Teitelbaum ผู้เขียนหนังสือขายดี From Fatigued to Fantastic! อธิบายอีกว่า ในเม็ดอัลมอนด์มี แมกนีเซียม(Magnesium) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ชวนให้นอนหลับ
      
       
เท่านั้นไม่พอ อัลมอนด์ยังอุดมด้วยโปรตีน ที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างหลับ และช่วยสลับวงจร อะดรีนาลีน (Adrenaline ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีนเมื่อรู้สึกอันตรายหรือตกอยู่ในความเครียด ดังนั้นถ้ามีฮอร์โมนชนิดนี้ หมายความว่า ความดันเลือดถูกเพิ่มขึ้น ใจเต้นเร็วขึ้น) ในตัวคุณ สู่วงจรนิ่งภาวะพักผ่อน
      
       
กินอัลมอนด์สัก 1 ช้อนโต๊ะก่อนนอน 2 ชั่วโมง แล้วคุณจะรู้สึกผ่อนคลาย นิ่งจนอยากงีบ
10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 2 : ชา
      
       
เป็นที่ทราบกันดีว่า ควรหลีกเลี่ยง คาเฟอีน (Caffeine) ตั้งแต่ตอนเย็นถ้าไม่อยากตาค้างตอนกลางคืน ทว่าเครื่องดื่มประเภท Decaf (เต็มๆ คือDecaffeinate มีคาเฟอีนในปริมาณน้อย) บางชนิดกลับทำให้ง่วงนอน
      
       
ดร.Teitelbaum แนะนำ ชาคาโมไมล์ (Chamomile tea) เขาบอกว่า ชาสมุนไพรชนิดนี้ช่วยให้นอนหลับชัวร์ อีกชอยส์คือ ชาเขียว (Green tea) “เพราะมันมี Theanine สารที่มีฤทธิ์กับประสาทส่วนกลาง ช่วยให้หลับ”
      
       
จิบชาเขียวร้อนๆ สัก 1 ถ้วยก่อนนอนนะคะ
10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 3 : ซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น
      
       
เชื่อว่าใครๆ ก็รู้จักซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น หรือ มิโซะซุป (Miso soup) ที่มักถูกเสิร์ฟมากับอาหารชุดญี่ปุ่นยอดฮิต นักโภชนาการ Stella Metsovas แนะให้ซื้อเจ้ามิโซะซุปแบบเป็นซองสำเร็จรูปเก็บไว้ประจำครัวเลยค่ะ เพราะมันจะเป็นตัวช่วยคุณยามคับขันนอนยังไงก็ไม่หลับได้ดีทีเดียว
      
       
ภายในซุปเต้าเจี้ยวประกอบด้วย กรดอะมิโน (Amino acids) ซึ่งทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนธรรมชาติ เมลาโทนิน (Melatonin) ขออนุญาตอธิบายสักพารากราฟนะคะว่า
      
       
เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนธรรมชาติชนิดหนึ่งซึ่งถูกสร้าง โดย Pineal gland ที่สมอง การหลั่งของฮอร์โมนชนิดนี้จะถูกกระตุ้นโดยความมืดและถูกยับยั้งโดยแสง เมื่อการหลั่งของเมลาโทนินเพิ่มขึ้นคนเราจะมีความรู้สึกตื่นตัวลดลงหรือเฉื่อยชาลงนั่นเอง รวมถึงอุณหภูมิของร่างกายก็เริ่มลดต่ำลง ทำให้เหมาะสำหรับการนอนมากขึ้น และระดับเมลาโทนินจะลดลง อย่างรวดเร็วในช่วงเช้ามืดของวันใหม่ ส่วนระดับของเมลาโทนินในระหว่างวันนั้นต่ำมากจนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถตรวจวัดได้
      
       
พูดง่ายๆ เจ้าฮอร์โมนเมลาโทนินออกมาเมื่อไร ง่วงเมื่อนั้น
      
       
นอกจากนี้ ผลจากงานการวิจัยยังระบุว่า เครื่องดื่มอุ่นๆ อย่าง ซุป ชา ยังช่วยบรรเทาอาการหวัด ช่วยคนที่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวทำท่าจะเป็นไข้..ให้สามารถนอนหลับได้ดีขึ้น
10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 4 : กล้วย
      
       
Saundra Dalton-Smith ดร.นักเขียนเจ้าของผลงาน Set Free to Live Free: Breaking Through the 7 Lies Women Tell Themselves เชียร์ให้กินกล้วยก่อนนอน เพราะผลไม้ชนิดนี้อุดมไปด้วยแมกนีเซียมกับ โปตัสเซียม (Potassium)
      
       
“สรรพคุณไม่ใช่แค่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แต่ยังมีเจ้าทริปโตเฟน(Tryptophan หนึ่งใน 20 กรดอะมิโนจำเป็นสำหรับมนุษย์) ซึ่งเปลี่ยนเป็น เซโรโทนิน (Serotonin สารสื่อประสาท เจ้าของบทบาทหลายหน้าที่ เช่น การควบคุมความหิว อารมณ์ และความโกรธ) และเมลาโทนิน นั่นเอง
      
       
ทั้งสองเป็นฮอร์โมนที่ไขไปสู่ความนิ่งสงบให้กับสมอง”
      
       
แต่แทนที่จะกินกล้วยเป็นลูก ลองทำเป็นสมูธตี้สิคะ แค่นำกล้วยมาปั่นกับนมวัวหรือนมถั่วเหลือง (เติมน้ำแข็งนิดหน่อย..ไม่ว่ากัน) คุณก็จะได้เครื่องดื่มชวนหาวแล้วล่ะ
10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 5 : นม
      
       
ดร.Dalton-Smith บอกว่า ในโยเกิร์ต-นม-ชีส ไม่เพียงประกอบด้วยเจ้าทริปโตเฟน แต่ยังมีแคลเซียม (Calcium)
      
       
“แคลเซียมมีสรรพคุณช่วยลดความเคร่งเครียด”
      
       
ถ้าอย่างนั้นหมายความว่า หากเรากินโยเกิร์ตสักถ้วยก่อนนอน นอกจากไม่ต้องกลัวนอนไม่หลับแล้ว ยังไม่ต้องอยู่ในภาวะวิตกจริต หมกมุ่นเก็บคำตำหนิของเจ้านายเมื่อกลางวันมาคิดเครียดกังวลจนกระทั่งนอนไม่หลับ
10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 6 : ข้าวโอ๊ต
      
       
แม้ปกติกินข้าวโอ๊ตกันตอนเช้า แต่ด้วยคุณสมบัติของข้าวโอ๊ตอุ่นๆ อันเต็มไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และโปแตสเซียม ซึ่งล้วนช่วยให้หลับ นักโภชนาการ Stephan Dorlandt จึงแนะนำให้กินข้าวโอ๊ตก่อนนอน
      
       
“ราคาไม่แพง และทำง่ายด้วย”
      
       
แต่เขากำชับคนที่ชอบรสหวานว่า ขอให้ใช้น้ำตาลเทียม เพราะหากหวานจริงหวานเกิน ผลลัพธ์จะกลับตรงกันข้าม เกิดภาวะแอนตี้ความสงบ ตาสว่างซะนี่ ที่น่าสนใจ เขาแนะให้ใช้ผลไม้อย่าง กล้วยโรยหน้า ..รับรองชามนี้อร่อยหลับสนิทสบายท้องเชียว
10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 7 : ไข่ต้ม
      
       
บางครั้งอาการนอนไม่หลับ อาจเกิดจากคุณไม่ได้กินโปรตีนเพียงพอ เพราะมัวละเลียดกินของหวานเค้กของโปรด ซึ่งมีแต่น้ำตาล!
      
       
“เห็นชัดจากการที่อยู่ดีๆ ตื่นขึ้นมาตอนตี 2-3” ดร.Teitelbaum แนะทางออก
      
       
“กินไข่ ชีส ถั่ว ซะ” แล้วคุณจะง่วง อยากงีบหลังย่อย 2 ชั่วโมงแน่นอน
10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 8 : ถั่วแระ
      
       
ดร.Dalton-Smith แนะเมนูบิวท์ต่อมหลับอีกอย่าง
      
       
“ถั่วแระโรยเกลือนิดๆ ยิ่งใครอยู่ในภาวะวัยทอง กระสับกระส่ายนอนไม่หลับ ต้องกินถั่วแระเลย”
      
       เธอให้เหตุผลว่า ในถั่วแระมี เอสโตรเจน (Estrogen ฮอร์โมนเพศหญิง) ธรรมชาติ เหมือนถั่วเหลือง สามารถช่วยลดอาการวูบวาบ อันเป็นฝันร้ายรบกวนคนวัยทองระหว่างนอน 

10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 9 : เชอร์รี่
      
       
“แปลกแต่จริง น้ำเชอร์รี่ (Cherry juice) 1 แก้วช่วยให้นอนหลับได้” นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย เผยข้อมูลจากงานวิจัยว่า เชอร์รี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ออกรสเปรี้ยวช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเมลาโทนิน รักษาอาการนอนไม่หลับ
      
       
“จะกินเป็นน้ำเชอร์รี่ หรือผลเชอร์รี่สดๆ หรือเชอร์รี่อบแห้งก็ได้ ให้ผลเหมือนกัน”
10 ของกินเล่น ที่ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
        กินเล่น 10 : ซีเรียล
      
       
ไม่ต้องรู้สึกละอายใจหรอกค่ะ ถ้าจะกินธัญพืช หรือที่เรียกกันเคยชินว่าซีเรียล (Cereal) สัก 1 ชามก่อนนอน แต่ขอแบบน้ำตาลน้อย และเป็นธัญพืชชนิดที่ไม่ขัดสีหรือขัดสีน้อยที่สุด อาจราดด้วยนมสักหน่อย เพื่อเพิ่มโปรตีนด้วย
      
       
คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) ที่มีอยู่ในซีเรียล จะช่วยเพิ่มเจ้าทริปโตเฟนในกระแสเลือด”
      
       
ดร.Dalton-Smith ให้เคล็ดลับโรยเชอร์รี่อบแห้งไปด้วย ชามนี้อร่อยเหาะ แถมเต็มไปด้วยสารอาหารที่จะผลิตฮอร์โมนกล่อมให้คุณครอกฟี้ zzz ฝันดีเลยล่ะ
       

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การอ่านหนังสือ ได้ความรู้ แล้วยังทำให้นอนหลับง่ายอีกนะ



อ่านหนังสือ. การอ่านเป็นวิธีที่วิเศษมากในการลดความเครียดและช่วยผ่อนคลายจิตใจ เลือกหนังสือเล่มโปรดและอ่านก่อนนอนทันที หลีกเลี่ยงการอ่านหนังสือสยองขวัญหรือแอ็คชั่น เพราะหนังสือพวกนี้อาจทำให้เกิดผลตรงกันข้ามและทิ้งให้คุณนอนตาค้างอยู่บนเตียงดึกกว่าที่คุณตั้งใจไว้
  • เลือกหนังสือเล่มหนาๆ อย่างเรื่อง เดอะรีเมมบรานซ์ออฟติงส์พาส (The Remembrance of Things Past) ของมาร์เซล พรูสต์ คุณจะรู้สึกง่วงนอนก่อนที่จะอ่านไปถึงกลางๆ เรื่องเสียอีก

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

รู้อะไรเกี่ยวกับยานอนหลับไหม


โดมิคุม!!! อันตรายมากนะรู้ไหม??




โดมิคุม (Dormicum) เป็นยานอนหลับในกลุ่มเบนโซไดอะซีพีน (Benzodiazepine) มีชื่อทางเคมีว่ามิดาโซแลม (Midazolam) ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เนื่องจากเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 ที่มีการควบคุมให้ซื้อได้เฉพาะโรงพยาบาลหรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเพื่อรักษาผู้ป่วยของตนเอง

โดมิคุม เป็นยานอนหลับที่ทำให้เกิดปัญหาต่อระบบความจำและพฤติกรรมมากกว่ายาตัวอื่นๆ พบรายงานการเกิดหลงลืมได้บ่อย นอกจากนั้นยังทำให้เกิดอาการสับสน หรือในบางรายอาจมีอาการประสาทหลอนเหมือนผู้ป่วยโรคจิตได้ ดังนี้จึงควรระวังการใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ

ข้อห้ามใช้
1. ผู้ที่มีประวัติเคยติดยาหรือติดเหล้า
2. สตรีมีครรภ์และระยะให้นมบุตร โดยเฉพาะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
3. ไม่ควรใช้ในเด็กเพราะยังไม่มีข้อมูลการใช้เพียงพอ
4. ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาโดมิคุม
5. ผู้ป่วยโรคต้อหินชนิดมุมแคบ (narrow-angle glaucoma) แบบเฉียบพลัน
6. ผู้ป่วยโรคต้อหินชนิดมุมเปิด (open-angle glaucoma) ที่ไม่ได้รับการรักษา

โดมิคุม ถูกนำมาเป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรม ด้วยหาซื้อโดยผิดกฎหมายได้ง่าย เนื่องจากมีการประกาศขายยาทางอินเทอร์เน็ตกันอย่างโจ่งแจ้ง มีบริการส่งถึงที่ พร้อมบอกวิธีใช้ในทางที่ผิดอย่างละเอียด ทำให้มิจฉาชีพสามารถก่ออาชญากรรมได้สะดวกและง่ายดาย

โดมิคุม มีคุณสมบัติที่สามารถละลายได้ดีในน้ำ ทำให้มีการนำยาเหล่านี้ไปละลายในเครื่องดื่ม เช่น น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เหล้า หรือเบียร์ เพื่อให้ผู้เสียหายดื่มโดยที่ไม่รู้ว่ามีการผสมยานอนหลับชนิดนี้ลงไปเพื่อปลดทรัพย์ หรือใช้มอมสาวเพื่อล่อลวงไปข่มขืน กรณีหลังนี้เรียกยานี้ว่า “ยาเสียสาว” สาเหตุที่ยาตัวนี้ถูกนำมาใช้ในการก่ออาชญากรรมมากกว่ายาชนิดอื่น เนื่องจากเป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็ว ประมาณ 15 นาที และมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผู้ที่ รับประทานยาจะสูญเสียความทรงจำไปชั่วขณะ คือ ช่วงที่รับประทานยาและหลังจากรับประทานยาเข้าไปจนกระทั่งหลับ ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพนำผลข้างเคียงนี้มาใช้เพื่อทำให้ผู้เสียหายลืมสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมาและไม่สามารถติดตามจับกุมตนเองได้นั่นเอง

ดังนั้น เพื่อป้องกันตนเองจึงควรที่เราจะต้องเพิ่มความระมัดระวังตนเองให้มากขึ้น ทั้งจากคนแปลกหน้าหรือแม้กระทั่งคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย ไปเที่ยว หรือรับเครื่องดื่มหรืออาหารจากผู้อื่นมาบริโภค ทั้งแก้วน้ำหรือยาชนิดใดที่ไม่รู้จัก แล้วอ้างว่าเป็นยาบำรุง หรือยาแก้หวัด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการตกเป็นผู้เสียหายได้

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559

อยากแข็งแรงและผิวสวยกระจ่างใสไหม การนอนที่ดีช่วยได้นะ


การนอนหลับมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและผิวพรรณอย่างไร? การนอนหลับหมายถึง สภาวะที่ร่างกายตัดการรับรู้ต่อของสิ่งแวดล้อมและโดยปกติระหว่างการนอนหลับร่างกายจะไม่มีการเคลื่อนที่ คนเราใช้เวลาถึงหนึ่งในสามของแต่ละวันไปกับการนอนหลับ ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่ดีที่สุด อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังหรืออวัยวะที่สึกหรอของเราและยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกายด้วย นอกจากนี้ยังมีสาระสำคัญต่างๆ ที่ร่างกายหลั่งออกมาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เช่น สารเมลาโทนิน(Melatonin) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญหลายอย่างเช่น ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตและที่สำคัญสารนี้ยังมีหน้าที่ควบคุมการนอนหลับอีกด้วย ถ้าคนเราอดนอนหรือนอนหลับไม่เพียงพอก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายรวมทั้งผิวพรรณด้อยลง ทั้งนี้มีสาเหตุจาก
  1. ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง โดยการอดนอนจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานหนักขึ้นซึ่งเลือดจะมีเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นและเม็ดเลือดขาวเหล่านี้จะสลายตัวในเวลาต่อมาจึงทำให้ความสามารถของร่างกายในการต้านทานต่อเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสเสียไป
  2. ระบบจัดเก็บความทรงจำหรือระบบประสาทจะมีประสิทธิภาพลดลง โดยอวัยวะที่สำคัญคือ ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) จะทำหน้าที่ถ่ายโอนข้อมูลที่เรียนรู้ในระหว่างวันเข้าสู่ความทรงจำระยะยาวซึ่งอวัยวะชิ้นนี้จะทำงานตอนที่เรานอนหลับเท่านั้นและจะทำงานได้ดีหากร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
  3. อารมณ์เครียด และเปลี่ยนแปลงได้ง่ายโดยไม่มีเหตุผล มีอาการง่วงนอนหรือรู้สึกไม่สดชื่นตลอดทั้งวัน
  4. ระบบการย่อยอาหารผิดปกติ โดยร่างกายจะต้องใช้เวลามากขึ้นถึง 40 เปอร์เซนต์เพื่อจัดการกับระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต และการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงนานๆ จะทำให้แก่เร็ว
  5. หากเราอดนอนนาน 1 สัปดาห์ หรือนอนวันละ 4 ชั่วโมงโดยประมาณร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นในการควบคุมปริมาณกล้ามเนื้อและไขมันน้อยลงทำให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น
  6. หากคนเรานอนไม่ถึงวันละ 8 ชั่วโมง ร่างกายก็จะผลิตสารเลปติน (Leptin) น้อยลงซึ่งเลปตินมีบทบาทในการควบคุมความอยากอาหาร เพราะฉะนั้นยิ่งเราอดนอน เลปตินก็จะถูกผลิตออกมาน้อยลงทำให้เรามีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น เช่นอยากทานขนมหวาน และอาหารมันๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมและลดน้ำหนักได้
  7. สูญเสียโอกาสที่ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ในขณะหลับ ซึ่งโกรทฮอร์โมนจะช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ โดยการสร้างสมดุลระบบการเผาผลาญอาหาร และช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ดังนั้น หากขาดฮอร์โมนชนิดนี้ผิวหนังก็จะหย่อนคล้อยและเหี่ยวย่นได้
  8. ในด้านของผิวหนัง สารเมลาโทนินเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ และสารเมลาโทนินจะถูกสร้างมากที่สุดในเวลากลางคืนขณะที่เรานอนหลับ ถ้าเราอดนอนหรือนอนน้อยก็จะทำให้มีการสร้างสารนี้ลดลง ส่งผลให้เกิดการอักเสบหรือภูมิแพ้ของผิวหนังได้ง่ายขึ้น
เทคนิคในการช่วยให้นอนหลับสบายเพื่อสุขภาพร่างกายและผิวพรรณที่ดี
  1. จัดตารางเวลาการนอนให้เหมาะสมและเป็นเวลา ซึ่งความต้องการในการนอนหลับของคนเราขึ้นอยู่กับช่วงอายุหรือวัย ยิ่งอายุน้อยยิ่งต้องการนอนมากและความต้องการนอนหลับสำหรับผู้ใหญ่โดยทั่วไปแล้วประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้ช่วงเวลาเข้านอนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฮอร์โมนและสารต่างๆ ที่จำเป็นในการก่อให้เกิดสุขภาพร่างกายและผิวพรรณที่ดีจะผลิตเป็นเวลาตามที่ร่างกายกำหนด เวลาที่แนะนำให้ควรเข้านอนไม่ควรจะเกิน 4 ทุ่มของแต่ละคืน
  2. สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสม เช่น ห้องนอนควรจะเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน อุณหภูมิในห้องต้องเย็นพอดีและควรจะปิดไฟให้มืด นอกจากนี้ไม่ควรนำอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เข้าไปไว้ในห้องนอนเช่น คอมพิวเตอร์ หรือโต๊ะทำงานจะทำให้เรารู้สึกกังวลตลอดเวลาจนเกิดอาการนอนไม่หลับ
  3. ควรเลือกหมอนและเตียงนอนให้เหมาะสมกับสรีระของร่างกาย รวมทั้งหมั่นเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนหรือนำมาซักทุกอาทิตย์เพื่อจะได้ช่วยลดการสะสมของฝุ่นและไรซึ่งอาจทำให้ผิวหน้าอ่อนแอ เกิดสิว และอาจเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น
  4. หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายร่างกายก่อนนอน เช่น การอาบน้ำอุ่น ฟังเพลงจังหวะสบายๆ หรือการนั่งสมาธิซึ่งช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดรฟีน(Endorphine) ออกมา ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้นอนหลับได้สบายยิ่งขึ้น
  5. ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ดีต่อสุขภาพเพราะเป็นท่านอนที่ไม่มีอะไรมากดทับหน้าอกช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้อย่างคล่องตัวที่สุด เมื่อนอนหงายกระดูกสันหลังจะได้รับการรองรับจากที่นอนทำให้สามารถวางตัวอยู่ในแนวธรรมชาติได้ดีที่สุด (ยกเว้นผู้ป่วยหรือสตรีมีครรภ์) นอกจากนี้ท่านอนหงายจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ดีที่สุดเพราะการนอนตะแคงหรือการนอนคว่ำนานๆ จะทำให้เกิดแรงกดทับซึ่งก่อให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า
  6. กดจุดบริเวณใบหน้าก่อนนอนด้วยการใช้ปลายนิ้วนวดวนเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ ตามหัวคิ้ว ขมับ ร่องจมูก คาง และมุมปาก ช่วยให้การนอนหลับสบายและหลับสนิทขึ้น
  7. กลิ่นของน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ น้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์ จะช่วยให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและช่วยให้การนอนหลับสบายยิ่งขึ้น
  8. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว ทำให้นอนหลับได้ยาก จึงแนะนำให้ดื่มชาคาโมมายด์อุ่นๆ หรือนมอุ่นๆ ก่อนนอน เพื่อช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรดื่มน้ำมากก่อนเข้านอนเพราะอาจทำให้ต้องตื่นกลางดึกบ่อยๆ เพื่อมาเข้าห้องน้ำ นอกจากนี้อาหารจำพวกมันเทศ เผือก กลอย ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต และผลิตภัณฑ์โฮลเกรนต่างๆ ช่วยให้ร่างกายผลิตสารเซโรโทนิน (serotonin) ทำให้นอนหลับสบาย

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

มารู้จักการนอนหลับกันเถอะ

การนอนไม่หลับ การนอนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต คนเราใช้เวลาหนึ่งในสามในการนอน แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการนอนเท่าใด คนเราจะมีช่วงที่ง่วงนอน 2ช่วงคือกลางคืน และตอนเที่ยงวัน จึงไม่แปลกใจกับคำว่าท้องตึงหนังตาหย่อนในตอนเที่ยง กลไกการนอนหลับ เมื่อความมืดมาเยือนเซลล์ที่จอภาพ[retina] จะส่งข้อมูลไปยังเซลล์ประสาทที่อยู่ใน hypothalamus ซึ่งจะเป็นที่สร้างสาร melatonin สาร melatonin สร้างจาก tryptophan ทำให้อุณหภูมิลดลงและเกิดอาการง่วง การนอนของคนปกติแบ่งออกได้ดังนี้ การนอนช่วง Non-rapid eye movement {non- (REM) sleep} การนอนในช่วงนี้มีความสำคัญมาก เพราะมีส่วนสำคัญในการทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาการ และมีการหลั่งของฮอร์โมนที่เร่งการเติบโต growth hormone การนอนช่วงนี้แบ่งออกเป็น 4 ระยะได้แก่โดยการหลับจะเริ่มจากระยะที่1ไปจน REMและกลับมาระยะ1ใหม่ Stage 1 (light sleep) ระยะนี้ยังหลับไม่สนิทครึ่งหลับครึ่งตื่น ปลุกง่าย ช่วงนี้อาจจะมีอาการกระตุกของกล้ามเนื้อที่เรียกว่า hypnic myoclonia มักจะตามหลังอาการเหมือนตกที่สูง ระยะนี้ตาจะเคลื่อนไหวช้า Stage 2 (so-called true sleep).ระยะนี้ตาจะหยุดเคลื่อนไหวคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นแบบ rapid waves เรียก sleep spindles Stage 3 คลื่นไฟฟ้าสมองจะมีลักษณะ delta waves และ Stage 4ระยะนี้เป็นระยะที่หลับสนิทที่สุดคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นแบบ delta waves ทั้งหมด ระยะ3-4 จะปลุกตื่นยากที่สุดตาจะไม่เคลื่อนไหวร่างกายจะไม่เคลื่อนไหว เมื่อปลุกตื่นจะงัวเงีย การนอนช่วง Rapid eye movement (REM) sleep จะเกิดภายใน 90 นาที หลังจากนอนช่วงนี้เมื่อทดสอบคลื่นสมองจะเหมือนคนตื่น ผู้ป่วยจะหายใจเร็ว ชีพขจรเร็ว กล้ามเนื้อไม่ขยับ อวัยวะเพศแข็งตัว เมื่อคนตื่นช่วงนี้จะจำความฝันได้ เราจะใช้เวลานอนร้อยละ50ใน Stage 2 ร้อยละ 20ในระยะ REM ร้อยละ30 ในระยะอื่นๆ การนอนหลับครบหนึ่งรอบใช้เวลา 90-110นาที คนปกติต้องการนอนวันละ 8 ชั่วโมงโดยหลับตั้งค่ำจนตื่นในตอนเช้า คนสูงอายุการหลับจะเปลี่ยนไปโดยหลับกลางวันเพิ่มและตื่นกลางคืน จำนวนชั่วโมงในการนอนหลับแต่ละคนจะไม่เหมือนกันบางคนนอนแค่วันละ 5-6 ชั่วโมงโดยที่ไม่มีอาการง่วงนอน อาการนอนไม่หลับ อาการนอนไม่หลับไม่ใช่โรคแต่เป็นภาวะหลับไม่พอทำให้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่สดชื่น บางคนอาจจะหลับยากใช้เวลามากว่า 30นาทียังไม่หลับ บางคนตื่นบ่อยหลังจากตื่นแล้วหลับยาก บางคนตื่นเช้าเกินไป ทำให้ตื่นแล้วไม่สดชื่น ง่วงเมื่อเวลาทำงาน อาการนอนไม่หลับมักจะเป็นชั่วคราวเมื่อภาวะกระตุ้นหายก็จะกลับเป็นปกติแต่ถ้าหากมีอาการเกิน 1 เดือนให้ถือว่าเป็นอาการเรื้อรัง การวินิจฉัย แพทย์จะถามคำถาม 4คำถามได้แก่ ให้อธิบายว่ามีปัญหานอนไม่หลับเป็นอย่างไร นอนไม่หลับเป็นมานานเท่าใด เป็นทุกทุกคืนหรือไม่ สามารถทำงานตอนกลางวันได้หรือไม่ แพทย์จะค้นหาว่าอาหารนอนไม่หลับนั้นเกิดจากโรค จากยา หรือจากจิตใจ คนเราต้องการนอนวันละเท่าใด ความต้องการการนอนไม่เท่ากันในแต่ละคนขึ้นกับอายุ ทารกต้องการนอนวันละ 16 ชั่วโมง วัยรุ่นต้องการวันละ 9 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ต้องการวันละ 7-8 ชั่วโมง แต่คนบางคนก็อาจจะต้องการนอนน้อยเหลือเพียงวันละ 5 ชั่วโมง หากนอนไม่พอร่างกายต้องการการนอนเพิ่มในวันรุ่งขึ้น เราอาจจะทราบว่านอนไม่พอโดยดูจาก เวลาทำงานคุณมีอาการง่วงหรือซึมตลอดวัน อารมณ์แกว่งโกรธง่ายโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอกับครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงาน หลับภายใน 5 นาทีหลังจากนอน บางคนอาจจะหลับขณะตื่นโดยที่ไม่รู้ตัว ทั้งหมดเป็นการแสดงว่าคุณนอนไม่พอคุณต้องเพิ่มเวลานอนหรือเพิ่มคุณภาพของการนอน การนอนหลับจำเป็นอย่างไรต่อร่างกาย ร่างกายเราเหมือนเครื่องจักรทำงานตลอดเวลาการนอนเหมือนให้เครื่องจักรได้หยุดทำงาน สะสมพลังงานและขับของเสียออก การนอนจึงจำเป็นสำหรับร่างกายมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีการศึกษาว่าการนอนไม่พอจะมีอันตรายการประสานระหว่างมือและตาจะเหมือนกับผู้ที่ได้รับสารพิษ ผู้ที่นอนไม่พอหากดื่มสุราจะทำให้ความสามารถลดลงอ่อนเพลียมาก การดื่มกาแฟก็ไม่สามารถทำให้หายง่วง มีการทดลองในหนูพบว่าหากนอนไม่พอหนูจะมีอายุสั้น ภูมิคุ้มกันต่ำลง สำหรับคนหากนอนไม่พอจะมีอาการง่วงและไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี ความสามารถในการคำนวณด้อยลง หากยังนอนไม่พอจะมีอาการภาพหลอน อารมณ์จะแกว่ง การนอนไม่พอเป็นสาเหตุของอุบัติต่างๆ เชื่อว่าเซลล์สมองหากไม่ได้นอนจะขาดพลังงานและมีของเสียคั่ง นอกจากนั้นการนอนหลับสนิทจะทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต (growth hormone) จะปรึกษาแพทย์เมื่อไร ถ้าหากอาการนอนไม่หลับเป็นมากกว่า 1 สัปดาห์ หรือทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลากลางวัน ก่อนพบแพทย์ควรทำตารางสำรวจพฤติกรรมการนอนประมาณ 10 วันเพื่อให้แพทย์วินิจฉัย ในการรักษาแพทย์จะแนะนำเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการนอน ถ้าไม่ดีจึงจะให้ยานอนหลับ การนอนหลับอย่างพอเพียงทั้งระยะเวลา และคุณภาพของการนอนหลับจะเป็นปัจจัยในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีเหมือนกับการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ และการออกกำลังกาย